Part2 ให้นักเรียนใช้ search engine (www.google.co.th) ค้นหาและตอบคำถาม อธิบายผลลัพธ์ที่ได้ เหตุใดถึงได้คำตอบเช่นนั้น และประโยชน์ของชุดคำสั่ง ซินแท็กซ์ที่ใช้
1. facebook site:www.ku.ac.th (site:)
ตอบ เป็นการค้นหาเว็บที่เกี่ยวข้องผ่าน www.google.co.thที่ได้ข้อมูลมาเป็นแบบนี้เพราะเว็บจะหาข้อมูลมารวมกัน ประโยชน์คือการคนหาข้อมูลแบบง่ายแบบไม่ต้องยุงยาก
2. site:www.cmu.ac.th filetype:pdf (site: filetype: )
ตอบ คือการแนบฝายของข้อมูลผ่านเว็บโดยไม่ต้องยุ่งยาก
นามสกุลไฟล์ (Extensions for known file types) คืออะไร ความหมายส่วนตัวก็คือ ตัวที่บ่งบอกประเภท(Type)ของไฟล์นั้นเอง ยกตัวอย่างเช่น work.docx, setup.exe, open.rarรูปแบบ .docks, .exe ก็คือนามสกุลของไฟล์(Extensions for known file types) นั้นเอง
การเปิดการแสดงนามสกุลไฟร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) ถือเป็นความไม่ปลอดภัยอย่างหนึ่ง เพราะข้อมูลที่จำเป็นอาจเสียหายจากการไม่ได้ตั้งใจของเราก็เป็นได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เช่น การแก้ไขชื่อไฟร์แล้วลืมใส่นามสกุลไฟร์ตามไปด้วย ก็จะทำให้เอกสารนั้นเสียหายทันที ซึ่งอาจเป็นไฟร์สำคัญที่
ใช้ในระบบปฏิบัติการ (System file) ของคอมพิวเตอร์
3. 3.5 USD in yuan
ตอบ เป็นการหาอัตตราค่าแลกเปลี่ยนระหว่างสกุนเงินเช่น3.5 U.S. dollars = 23.2838164 Chinese yuan
4. ในครั้งแรกให้ทำการค้นหาโดยใช้คีย์เวิร์ด โหน่ง และครั้งที่สองใช้คำว่า โหน่ง ‐เท่ง ( ‐ )
ตอบ ในครั้งแรก google จะหาข้อมูลมาเพียงแค่คนชื่อโหน่งแต่พอใส่ -(โหน่ง - เท่ง) จะพบว่าข้อมูลจะเปลี่ยนไปทันที
5. "parent directory" DVDRip ‐xxx ‐html ‐htm ‐php ‐shtml ‐opendivx ‐md5 ‐md5sums (“ “ ‐ )
5. "parent directory" DVDRip ‐xxx ‐html ‐htm ‐php ‐shtml ‐opendivx ‐md5 ‐md5sums (“ “ ‐ )
ตอบ เป็นการหาข้อมูลของgoogle วิธีนี้จะใช้การหาดาวน์โหลดโปรแกรม แคร็ก ซีดี คีย์ หรือต่างๆนานา
6. Intitle: index.of mp3 (intitle:)
ตอบ เป็นการค้นหาเฉพาะเรื่องเช่น เพลง
7. ผลลัพธ์ในการค้นหาของ Google จะถูกจัดอันดับเรียงตาม Keyword ที่ใส่ และ PageRank คำว่า PageRank นี้หมายถึงอะไร มีความสำคัญอย่างไร
ตอบ โดยหลักแล้วก็คือ "ความน่าเชื่อถือของเว็บเพจนั้น ๆ" มีค่า 1 - 10 โดยการวัดจากหลายปัจจัย ปัจจัยหลักก็คือจำนวน Link ที่มี"คุณภาพ" ที่เชื่อมมายังเพจของเรา คำว่า "คุณภาพ" หมายถึง Link ที่มี PageRankที่ดี และต้องมีเนื้อหาที่เชื่อมโยง หรือเกี่ยวเนื่องกับเพจของเรา จำนวน Linkที่มากแต่เนื้อหาไม่เกี่ยวเนื่องกันก็ไม่มีประโยชน์สำหรับ Google และเนื่องจาก Google สามารถเข้าใจในภาษาต่าง ๆ มากมาย ทำให้ Google สามารถทำการวิเคราะห์เนื้อหาของเว็บเพจได้เอง หน้าที่มี PageRank ดีอาจจะไม่จำเป็นต้องแสดงในลำดับที่ดีเสมอไปเมื่อเราค้น
ด้วย Google เพราะ Keywordและโครงสร้างของเว็บจะมีผลด้วยเช่นกัน แต่ PageRank จะมีประโยชน์เมื่อเราต้องนำเว็บของเราไปแข่งกับคนอื่น เพราะเมื่อเรามี Keyword เหมือนคู่แข่งแล้ว PageRank ที่ดีจะช่วยให้เราได้ลำดับในการแสดงที่ดีตามไปด้วย
8. หากต้องการให้ผลลัพธ์จากการค้นหาอยู่ในอันดับต้นๆ จะใช้เทคนิควิธีการ SEO วิธีการนี้หมายถึงอะไร และมีการทำอย่างไร
ตอบ ตอบ SEO ย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimization แปลเป็นไทยว่าการปรับปรุงองค์ประกอบทั้งภายนอก และภายในที่ผลต่อเว็บไซต์ ให้ได้มาซึ่งอันดับที่ดีใน Search Engine ซึ่ง Search Engine ที่คนไทยนิยมใช้และเป็นที่รู้จักกันดีเห็นจะมีอยู่สองเจ้าคือ
1. Google Search Engine
2. Yahoo Search Engine
1. Google Search Engine
2. Yahoo Search Engine
ในแต่ละวันมีคนเข้าใช้บริการ Search Engine เพื่อค้นหาข้อมูลหลายล้านครั้งต่อวัน จึงทำให้เว็บไซต์จำนวนมากพยายามนำ Search Engine เข้ามาใช้ในการทำการตลาด ซึ่งหนึ่งในวิธีการนั้นก็คือการทำSEO กับเว็บไซต์ของบริษัท หรือร้านค้า เพื่อให้ผู้ใ้ช้งาน Search Engine เห็นเว็บไซต์ของเรา และมีโอกาสขายสินค้า หรือบริการได้มากขึ้น
โดยระยะเวลาในการทำ SEO นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รูปแบบของเว็บไซต์ เนื้อหาของเว็บไซต์ จำนวนเว็บไซต์ของคู่แข่ง และสำคัญสุดเห็นจะเป็นเรื่องของ คำค้นหา (Keyword) ที่เราต้องการให้ทำอันดับใน Search Engine
ผมจะขอยกตัวอย่างสถานะการณ์ ที่เราควรใช้ SEO มาช่วยในการขาย เว็บขายเสื้อผ้าน่าจะเป็นอะไรที่เข้าใจง่าย และเห็นภาพได้ชัดเจน
สมมุติว่านาย ก. มีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และมีความต้องการจะเปิดตลาดภายในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของเขาคือ ผู้มีความต้องการสั่งซื้อเสื้อผ้าจำนวนมากไปขายต่อ โดยสินค้าของเขาเป็นสินค้ากลุ่มวัยรุ่น ตามแฟชั่น ซึ่งสินค้าที่ขายดีสุดของเขาปัจจุบันเห็นจะเป็นเสื้อผ้าแนวเกาหลี แต่ปัญหาเขาคือลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในระแวกนั้น และนับวันจะมีคู่แข่งที่คอยมาตัดราคา ทั้งๆที่ต้นทุนนับวันจะสูงยิ่งขึ้น ซึ่งทางออกเดียวที่พอจะมองเห็นคือการเปิดตลาดให้กว้าง โดยการทำให้คนรู้จักว่ามีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งนี้อยู่
ทางออกหนึ่งที่น่าจะเหมาะสม และต้นทุนไม่แพงนักก็คือการจัดทำเว็บไซต์เพื่อนำเสนอสินค้าบนอินเทอร์เน็ต เขาจึงตัดสินใจว่าจะทำเว็บไซต์ขึ้นมาเว็บหนึ่งชื่อว่า “shirt.in.th” สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือว่าจ้างบริษัทจัดทำเว็บไซต์ และนำข้อมูลสินค้าของเขาใส่ลงไปยังหน้าเว็บ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแต่ติดอย่างหนึ่งคือเวลาผ่านไปก็ 3-4 เดือน
โดยระยะเวลาในการทำ SEO นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รูปแบบของเว็บไซต์ เนื้อหาของเว็บไซต์ จำนวนเว็บไซต์ของคู่แข่ง และสำคัญสุดเห็นจะเป็นเรื่องของ คำค้นหา (Keyword) ที่เราต้องการให้ทำอันดับใน Search Engine
ผมจะขอยกตัวอย่างสถานะการณ์ ที่เราควรใช้ SEO มาช่วยในการขาย เว็บขายเสื้อผ้าน่าจะเป็นอะไรที่เข้าใจง่าย และเห็นภาพได้ชัดเจน
สมมุติว่านาย ก. มีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และมีความต้องการจะเปิดตลาดภายในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของเขาคือ ผู้มีความต้องการสั่งซื้อเสื้อผ้าจำนวนมากไปขายต่อ โดยสินค้าของเขาเป็นสินค้ากลุ่มวัยรุ่น ตามแฟชั่น ซึ่งสินค้าที่ขายดีสุดของเขาปัจจุบันเห็นจะเป็นเสื้อผ้าแนวเกาหลี แต่ปัญหาเขาคือลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในระแวกนั้น และนับวันจะมีคู่แข่งที่คอยมาตัดราคา ทั้งๆที่ต้นทุนนับวันจะสูงยิ่งขึ้น ซึ่งทางออกเดียวที่พอจะมองเห็นคือการเปิดตลาดให้กว้าง โดยการทำให้คนรู้จักว่ามีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งนี้อยู่
ทางออกหนึ่งที่น่าจะเหมาะสม และต้นทุนไม่แพงนักก็คือการจัดทำเว็บไซต์เพื่อนำเสนอสินค้าบนอินเทอร์เน็ต เขาจึงตัดสินใจว่าจะทำเว็บไซต์ขึ้นมาเว็บหนึ่งชื่อว่า “shirt.in.th” สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือว่าจ้างบริษัทจัดทำเว็บไซต์ และนำข้อมูลสินค้าของเขาใส่ลงไปยังหน้าเว็บ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแต่ติดอย่างหนึ่งคือเวลาผ่านไปก็ 3-4 เดือน
เว็บของเขาแทบจะไม่มีคนเข้ามาดูเลย ซึ่งเหตุผลหลักก็คือ ไม่มีใครรู้ว่ามีเว็บของเขาอยู่ในโลกแห่งนี้
เขาพยายามหาคนเข้าเว็บด้วยการโฆษณาตามเว็บดังๆ ต่างๆ ด้วยค่าใช้จ่ายเดือนนึงหลายพัน หากเว็บใหญ่ๆ ก็หลักหมื่นต่อเดือน แต่ยอดขายกลับไม่มากตามจำนวนเงินที่จ่ายไป จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับแนวทางการทำตลาดอีกรูปแบบหนึ่งนั่นก็คือ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งมันจะทำให้เว็บของเขาปรากฎต่อสายตาชาวโลกบนหน้าผลการค้นหา โดยที่เขาไม่ต้องจ่ายเงินค่าลงโฆษณาให้กับ Google หรือ Yahoo แต่อย่างใด
โดยสรุปแล้วสิ่งที่ นาย ก. จะได้รับจากการทำ SEO คือ
1. นาย ก. มีลูกค้าที่มาจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการเปิดตลาดครั้งนี้
2. จำนวนผู้เยี่ยมชมจำนวนมากจาก Search Engine อย่าง Google, Yahoo หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
เขาพยายามหาคนเข้าเว็บด้วยการโฆษณาตามเว็บดังๆ ต่างๆ ด้วยค่าใช้จ่ายเดือนนึงหลายพัน หากเว็บใหญ่ๆ ก็หลักหมื่นต่อเดือน แต่ยอดขายกลับไม่มากตามจำนวนเงินที่จ่ายไป จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับแนวทางการทำตลาดอีกรูปแบบหนึ่งนั่นก็คือ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งมันจะทำให้เว็บของเขาปรากฎต่อสายตาชาวโลกบนหน้าผลการค้นหา โดยที่เขาไม่ต้องจ่ายเงินค่าลงโฆษณาให้กับ Google หรือ Yahoo แต่อย่างใด
โดยสรุปแล้วสิ่งที่ นาย ก. จะได้รับจากการทำ SEO คือ
1. นาย ก. มีลูกค้าที่มาจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการเปิดตลาดครั้งนี้
2. จำนวนผู้เยี่ยมชมจำนวนมากจาก Search Engine อย่าง Google, Yahoo หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
3. ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของการแสดงผลบนหน้าค้นหา
4. จะมีคนคลิ๊กมายังเว็บของเราผ่าน Search Engine กี่ครั้ง เราก็ไม่ต้องเสียเงิน
5. ตำแหน่งของเว็บไซต์จะอยู่นานเท่านาน ตราบใดที่เว็บเรายังคงซึ่งคุณภาพเพียงพอ
6. ค่าใช้จ่ายในกรณีที่จ้างผู้ รับทำ SEO ทำให้ โดยรวมแล้วจะถูกกว่าโฆษณาในรูปแบบอื่น และคุ้มค่ามากกว่าใน
ระยะยาว
4. จะมีคนคลิ๊กมายังเว็บของเราผ่าน Search Engine กี่ครั้ง เราก็ไม่ต้องเสียเงิน
5. ตำแหน่งของเว็บไซต์จะอยู่นานเท่านาน ตราบใดที่เว็บเรายังคงซึ่งคุณภาพเพียงพอ
6. ค่าใช้จ่ายในกรณีที่จ้างผู้ รับทำ SEO ทำให้ โดยรวมแล้วจะถูกกว่าโฆษณาในรูปแบบอื่น และคุ้มค่ามากกว่าใน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น